วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

ไพ่เก้าเก

วิธีการเล่นไพ่เก้าเกอย่างแรกเลย เราต้องเริ่มจากผู้เล่นแต่ละคนวางเดิมพัน ซึ่งเรียกว่า ค่าต๋ง ลงในกองกลางหรือแจ็คพอตตามจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จากนั้นเจ้าทำการสับไพ่แจกให้ผู้เล่นแต่ละคนทีละใบจนครบ 3 ใบ การแจกไพ่เริ่มจากใครก็ได้ในตาแรก แต่ตาถัดไปให้แจกผู้เล่นคนถัดไปทางซ้ายเป็นคนแรก เลื่อนไปเรื่อยๆ แล้วผู้เล่นแต่ละคนก็ดูไพ่ในมือ ว่ามีแต้มแค่ไหนที่เราจะพอสู้ได้บ้าง โดยวิธีการกูแต้มคือ อย่างแรกเราต้องจำ แต้ม >> สี >> เรียง >> เซียน >> สเตรฟลัช >> ตอง ในที่นี้เราจะเรียงจากน้อยไปมากนั้นคือจากซ้ายไปขวานั้นเอง
1.“แต้ม” คือ ตัวเลขจะมีค่าตามเลขนั้นๆ ยกเว้น 10 J Q K นับเป็น 0 ส่วน A นับเป็น 1
แต้มที่รวมกันเกินสิบ ให้ตัดเลขหลักสิบออก เหลือแต่เลขหลักหน่วย
โดยแต้มที่มีค่ามากที่สุดคือ 9
2.“สี” คือ ไพ่ในมือทั้งสามใบเป็นไพ่ ดอกเดียวกัน เหนือกว่า เก้าแต้ม โดยเรียงดอกจากน้อยไปหามากคือ
ดอกจิก >> ข้าวหลามตัด >> โพธิ์แดง >> โพธิ์ดำ
3.“เรียง” คือ ไพ่สามใบในมือ มีเลขเรียงกันคือ (2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, Q, K, A) เหนือกว่า เก้าแต้ม สี กรณีที่มีแต้มเรียงเหมือนกัน ให้วัดกันว่ามีตัวไหนใหญ่กว่ากัน(มีตัวไหนคุม) โดยส่วนมากให้ A มีค่ามากสุด
4.“เซียน” คือ ไพ่สามใบเป็นไพ่ในกลุ่ม J Q K โดยจะเป็น JJQ, QQK หรือ JKK ก็ได้ และไพ่สามใบเป็นไพ่ในกลุ่ม J Q K ทั้งสามใบ เหนือกว่า เก้าแต้ม สี และเรียง
5.“สเตรฟลัช” คือ ไพ่สามใบในมือ มี K Q A และดอกเดียวกัน
6.และสุดท้าย “ตอง” คือ ไพ่สามใบในมือ เป็นเลขเดียวกันทั้งสามใบ มีค่าเหนือสุด ซึ่งโดยส่วนมากนับตอง 3 มีค่ามากที่สุด เพราะมีค่าบวกกันได้ 9  ซึ่งเซียนสู้เซียน เรียงสู้เรียง ตองสู้ตอง ให้ดูไพ่ที่มีค่าสูงสุดของชุดนั้นๆผู้มีแต้มเหนือกว่าจะชนะ (A สูงสุด 2 ต่ำสุด ถ้าเลขเท่ากัน ให้เรียงดอกจากสูงไปต่ำคือ โพดำ โพแดง ข้าวหลามตัด และดอกจิก)
7.และเมื่อเราได้ไพ่ที่เราคิดว่าสูงหรือพอที่จะชนะได้แล้วนั้นทีนี้ก็ต้องมาใช้จิตรวิทยากันแล้วล่ะค่ะว่าเราจะสู้หรือจะถอยโดยในแต่ละคนจะมีลำดับการลงที่ได้มาจากการแจกที่เจ้าได้แจกไพ่ไป ซึ่งทางเลือกของผู้ลงก็มีอยู่ด้วยกัน 4 วิธีง่ายๆ
8.“หมอบ” คือ ให้คว่ำไพ่ไว้ข้างหน้า ผู้เล่นที่หมอบจะไม่ต้องเล่นต่อในตานี้ แต่จะเสีย ค่าต๋งที่ได้ลงไว้แต่เริ่มต้น
9.“สู้” คือ เฉพาะผู้เล่นคนแรกที่ไม่ได้หมอบเราจึงจะเลือก”สู้” ได้ ให้วางเดิมพันลงไป อย่างน้อยเท่ากับ ค่าต๋ง
10. “ตาม” คือ การวางเดิมพันเงินให้เท่ากับคนก่อนหน้า
11.“เกทับ” คือ เมื่อหลังจากตามแล้วสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้ ซึ่งผู้เล่นคนถัดไปต้องเลือก หมอบ ตาม หรือ เกทับ
พอหลังจากผู้เล่นทุกคนเห็นตรงกันว่าจะไม่เพิ่มเดิมพันแล้ว ก็ให้เปิดไพ่ผู้เล่นที่ยังไม่หมอบผู้ที่มีแต้มสูงสุดจะชนะและได้เงินเดิมพันในกองกลางทั้งหมดไปสะบายแฮ แต่ถ้าแต้มเท่ากันก็ให้ผู้เล่นที่แต้มเท่ากันเท่านั้น เล่นในตาถัดไปโดยใช้กองกลางเดิม จนกว่าจะมีผู้ชนะเดิมพันทั้งหมด
เห็นไม่ค่ะว่าเสน่ห์ของไพ่เก้าเกอยู่ที่ความมันใจและความเด็ดเดียวที่เราจะชนะ ถึงแม้ว่าไพ่เราจะน้อยแต่ถ้าเราสู้ก็อาจทำให้คนที่มีไพ่เหนือกว่าคิดว่าไพ่เราสูงก็หมอบได้ เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ ยังไงแล้วก็ลองเอาไปเล่นกันดู เพื่อความสนุกและเพลิดเพลิน เราไม่จำเป็นต้องเล่นกินเงินกันก็ได้เล่นโดยให้ลูกอมหรือขนมเป็นเดิมพันธ์ก็สนุกไปอีกแบบยังไงก็ลองไปเล่นกันดู

3 ความคิดเห็น:

  1. สมมุตผมถือไพ่ 6-2-A รวมเป็นเก้า ส่วนอีกคนถือไพ่9-J-K รวมเป็น9 เเบบนี้ใครชนะครับ ไพ่ของอีกฝ่ายคิงคุม เเล้วไพ่ของผมตัวAนับเป็นตัวคุมไหมครับ หรือเเค่9ไม่มีตัวคุม

    ตอบลบ